“หมวดเจี้ยบ”ทนไม่ไหว ชกข้ามรุ่น จวก”บิ๊กตู่” หลังให้สัมภาษณ์ไม่หนักใจภาพลักษณ์คอรัปชั่น

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ควรพูดจาบิดเบ...

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ควรพูดจาบิดเบือนเรื่องดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอรัปชั่นของไทยที่ตกต่ำลง ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงพูดว่า ผลการจัดอันดับที่ออกมา ไม่ได้เป็นเรื่องที่แย่มากมายอะไรสำหรับประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่ ความจริงแล้ว ไทยได้คะแนนรองบ๊วยในอาเซียน และการที่ไทยได้คะแนนรวมแค่ 35 คะแนนนอกจาก จะได้ไม่ถึงครึ่งของ 100 คะแนนเต็มแล้ว ยังถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำของโลกเพราะโดยมาตรฐานโลกอยู่ที่ 43 คะแนน



“และที่แย่ไปกว่านั้นในรายงานดังกล่าวยังระบุว่าประเทศไทย เป็น 1 ใน 2 ชาติอาเซียนที่มีภาพลักษณ์ตกต่ำที่สุดในภูมิภาคในด้านปัญหาคอรัปชั่น เนื่องจากอยู่ใต้อำนาจการปกครองของกองทัพและรัฐบาลที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งยังมีการปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ ในขณะที่เพื่อนบ้านของไทย อย่าง พม่า ลาว และติมอร์ฯ ล้วนแต่มีคะแนนดีขึ้น ในสายตาขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติซึ่งเป็นผู้จัดทำผลสำรวจ โดยประเทศไทยถูกเขียนวิจารณ์หนักที่สุดและมีปัญหายาวเป็นหางว่าวมากที่สุดในอาเซียน มีการตำหนิถึง 11 บรรทัด ในขณะที่ กัมพูชาถูกวิจารณ์เพียง 3 บรรทัด



ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ปรากฎอยู่เวปไซต์ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่เปิดให้คนทั่วโลกเข้ามาอ่านได้ จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด พล.อ. ประยุทธ์ จึงไม่หนักใจกับผลการจัดอันดับดังกล่าว หรือเป็นเพราะอ่านผลโพลไม่เป็น หรือจงใจพูดบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อตบตาประชาชนเจ้าของประเทศ ในทางกลับกันเป็นการสะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สนใจปราบคอรัปชั่นจริงจังและไม่มีความรู้เรื่องการทำโพล การให้ข่าวของรัฐบาลเชื่อถือไม่ได้ เน้นการล้างสมองคนฟังอย่างเดียว โดยจ้องเซ็นเซอร์สื่อใช่หรือไม่” ร.ท.หญิง สุณิสากล่าว

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า การบิดเบือนข้อเท็จจริงของรัฐบาล เป็นสิ่งที่อันตราย ประชาชนจะเชื่อมั่นในคำพูดของรัฐบาลได้อย่างไร ว่าสิ่งไหนคือเรื่องจริง สิ่งไหนคือการล้างสมองด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ กรณีนี้ มีข้อเท็จจริงยืนยันเป็นตัวเลข จากหน่วยงานที่โลกยอมรับในความน่าเชื่อถือ รัฐบาลก็ยังพูดบิดเบือนจากดำให้เป็นขาว แล้วถ้าเป็นการโกงแบบไม่มีใบเสร็จ เช่น การรับเงินค่าแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หรือ ค่าคอมมิชชั่นในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ตลอดจนการรับเงินใต้โต๊ะจากเจ้าสัวใหญ่เพื่อแลกกับการอนุมัติโครงการต่าง ๆ นั้น ประชาชนจะแน่ใจได้อย่างไร ว่ารัฐบาลจะพูดความจริงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นการโกงที่ไม่มีใบเสร็จและไม่มีเส้นทางการเงินให้ติดตาม



ขณะเดียวกัน กลไกในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่าง ๆ ก็ทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ เพราะถูกคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นภาคการเมือง ภาคประชาชน นักวิชาการ หรือ สื่อมวลชน ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชนจับตามองการออกกฎหมายเพื่อควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่กำลังจะมีขึ้นอย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนคิดตามว่า รัฐบาลต้องการเซ็นเซอร์การให้ข้อมูลข่าวสารเรื่องการโกงกินหรือความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลจึงต้องมีกฎหมายไว้เพื่อบีบคอสื่อ เพื่อที่รัฐบาลจะได้สื่อสารเพียงข้างเดียว ซึ่งจะทำให้ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ซึ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งนี้ การคุกคามการทำงานของสื่อ ไม่ใช่ปัญหาของนักข่าวหรือเจ้าของสำนักข่าวเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของสังคมโดยรวมด้วย เพราะถ้าแม้แต่องค์กรสื่อ ซึ่งอยู่ในที่แจ้ง ยังถูกคุกคามเสรีภาพเช่นนี้ แล้วประชาชนจะมีที่ยืนอยู่ตรงไหน จะเหลือเครื่องมืออะไรในการปกป้องตัวเอง

ทีมา https://www.khaosod.co.th

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น