โทษของผงชูรสที่เราได้ยินกันมานานว่า กินแล้วผมร่วง สมองเสื่อม เป็นหมัน จริง ๆ แล้วร้ายแรงขนาดนี้เลยหรือ พร้อมที่จะไขคำตอบไปด้วยกันหรือยัง

มีคำเตือนให้เราได้ยินกันเสมอว่า “ผงชูรส” ที่หลายบ้านและตามร้านอาหารชอบใส่ลงไปขณะปรุงอาหาร ถ้ากินมาก ๆ จะทำให้ผมร่วง ความจำแย่ สมองเสื่อม ปัญญาอ่อน เป็นหมัน ตาบอด ทำลายไขกระดูก ฯลฯ สารพัดความน่ากลัวที่บอกต่อกันมา ฟังแล้วก็มีข้อสงสัยอยู่ในใจว่า ถ้าผงชูรสอันตรายขนาดนั้น ทำไมถึงยังมีการผลิตออกมาขายอยู่อีก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ออกมาห้ามปรามเลยหรือ

ลองมาไขปัญหาเรื่องนี้กับ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยอธิบายให้ฟังไว้ในรายการ “วิทยาตาสว่าง” ปี 2 จะได้รู้ชัดว่า “ผงชูรส” อันตรายขนาดนั้นจริงหรือ..?

เมื่อพูดถึง “ผงชูรส” ก็ต้องรู้ว่านี่คือสารปรุงแต่งอาหารชนิดหนึ่งซึ่งจริง ๆ แล้ว องค์การอนามัยโลกและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจากทั่วโลกให้การยอมรับว่าสามารถนำมาปรุงรสในอาหารได้ มีชื่อจริง ๆ ว่า “โมโนโซเดียมกลูตาเมต” มาจาก “โซเดียม” (เกลือ) และ “กลูตาเมต” ที่เป็นกรดอะมิโนหรือโปรตีนชนิดหนึ่ง ดังนั้นโครงสร้างทางเคมีของผงชูรสไม่ได้อันตรายอะไร
อาจารย์เจษฎา ยังให้ข้อมูลอีกว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทยก็เคยทำการศึกษาพบว่า อาจมีคนเพียง 1% เท่านั้นที่กินผงชูรสแล้วแพ้ แต่โดยทั่วไปผงชูรสไม่ได้เป็นอันตรายขนาดทำให้ถึงแก่ชีวิตถ้าไม่ได้ทานมากเกินขนาด เช่น คนที่มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ถ้าจะได้รับอันตรายจากผงชูรสก็ต้องทานผงชูรสเกือบ ๆ 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว
หากลองชิมผงชูรสเปล่า ๆ เราจะรู้สึกว่าผงชูรสมีรสชาติแปลก ๆ ไม่อร่อยเอาเสียเลย แต่เมื่อนำมาผสมอาหาร ผงชูรสจะทำให้อาหารจานนั้นมีรสเข้มข้นขึ้น อาหารจึงอร่อยขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งถ้าทานในปริมาณไม่มากก็ไม่มีผลกับสุขภาพมากอย่างที่คำเล่าลือเขาบอกกัน

แต่การใช้ผงชูรสก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน เพราะผงชูรสก็มีทั้งของแท้และของปลอม โดยของแท้หากนำไปเผาไฟจะละลายเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด ส่วนของปลอมจะมีสารบอแร็กซ์หรือสารโซเดียมเมตาฟอสเฟตผสมอยู่ด้วย ถ้านำไปเผาไฟ ก็จะยังเห็นเศษขาว ๆ หลงเหลืออยู่ ซึ่งผงชูรสปลอมที่ผสมบอแร็กซ์นี่แหละที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของจริง

สรุปได้ว่า ผงชูรสไม่ใช่สารต้องห้าม ทานแล้วไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพรุนแรงถึงขนาดที่มีข้อมูลแชร์ต่อกันถ้าไม่ได้ทานในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะการทานมากเกินไปก็ไม่ดี แต่ถ้าเราไม่แน่ใจว่าร้านอาหารนอกบ้านใส่ผงชูรสมากขนาดไหน เวลาสั่งอาหารก็อาจจะบอกไปด้วยว่าไม่ใส่ผงชูรส หรือหันมาทำอาหารทานเองบ้างในบางมื้ออย่างเช่นวันหยุดก็ดีเหมือนกัน

ที่มา:https://www.pageqq.com/en/content/view/page